วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มาฝากทีมทนายดีๆ

รับให้คำปรึกษากฎหมายฟรีแก่ผู้ได้รับความเดือนร้อน
ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ
รับฟ้อง ต่อสู้คดี ยื่นคำให้การคดี เช่น คดีเงินกู้ 
คดีบัตรเครดิตทุกธนาคาร คดีสินเชื่อธนาคาร
คดีร้องขอเป็นคนสาบสูญ คดีทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ 
คดีผิดสัญญา คดีเช็คเด้ง คดีซื้อขาย คดีเช่า คดีก่อสร้าง
คดีรถชน คดีรถน้ำท่วม บริษัทประกันไม่รับผิดชอบ
คดีละเมิด คดีซื้อรถ คดีไฟแนนซ์ยึดรถ คดีค้ำประกัน
คดีจำนอง คดีขายฝาก คดีบริษัทประกันไม่จ่ายเงิน
คดีมีปัญหาภายใน หุ้นส่วนบริษัท คดีที่ดิน คดีเปิดทางตาบอด

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แม่ร่วมมือพ่อเลี้ยงขโมยรถลูกสาว หวังขาย

แม่ร่วมมือพ่อเลี้ยงหลอกลูกสาวไปซื้อของที่ห้าง ก่อนใช้กุญแจสำรองขโมยรถไปซ่อน หวังเอาไปขาย กลับมาบ้านทำเป็นไม่รู้เรื่อง 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 มิ.ย.) สภ.เมืองตราด ควบคุมตัวนายธรรมธนกร คำวิรัช อายุ 42 ปี หลังขโมยรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไททันสีดำ หมายเลขทะเบียน กค-1787ตราด ที่ น.ส.ณภาวรรณ เกษจรัล อายุ 24 ปี แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 7 มิย. โดยจับกุมได้พร้อมนางจำเนียร แช่มชื่น อายุ 47 ปี ผู้เป็นภรรยา และเป็นมารดาแท้ๆ ของ น.ส.ณภาวรรณ 
จากการสอบสวนทราบว่า นางจำเนียรได้ร่วมกับนายธรรมธนกร สามีใหม่และเป็นพ่อเลี้ยงของ น.ส.ณภาวรรณ หลอกให้ น.ส.ณภาวรรณ ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปซื้อของที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาตราด บ่ายวันที่ 7 มิ.ย. หลังจากนั้นนางจำเนียร จึงให้กุญแจสำรองรถยนต์กระบะคันดังกล่าวกับนายธรรมธนกร ไปลักขโมยรถยนต์กระบะของ น.ส.ณภาวรรณ หลังขโมยได้แล้วจึงนำรถยนต์คันดังกล่าวไปซุกไว้ในป่าใกล้อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ และกลับบ้านพักนำกุญแจสำรองไปไว้ที่เดิม ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจนพบรถก่อนทำการเข้าควบคุมตัวนายธรรมธนกร และนางจำเนียร ขณะกำลังเคลื่อนย้ายรถไปขาย 
เบื้องต้น นางจำเนียรให้การปฎิเสธบอกว่าแค่ต้องการสั่งสอนลูกสาวไม่ให้ใช้รถเที่ยวเตร่ ขณะนายธรรมธนกรยอมรับว่าลักรถจริง แต่ไม่ยอมให้การใดๆ ขอไปให้การในชั้นศาลต่อไป
ปอ. มาตรา ๓๓๔
            ผู้ใด เอา ทรัพย์ ของ ผู้อื่น หรือ ที่ผู้อื่น เป็นเจ้าของ รวมอยู่ด้วย ไป โดยทุจริต ผู้นั้น กระทำความผิด ฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน สามปี และ ปรับไม่เกิน หกพันบาท
คำพิพากษาฎีกาที่ 624/2553 ----- การกระทำที่จะครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 334 นั้น จะต้องเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต แต่กรณีตามฟ้อง เงินฝากในบัญชีของโจทก์ที่ฝากไว้กับจำเลยตกเป็นกรรมสิทธิ์และอยู่ในความครอบครองของจำเลย จำเลยผู้รับฝากย่อมมีสิทธิที่จะบริหารจัดการเงินฝากประการใดก็ได้ จำเลยคงมีหน้าที่เพียงต้องคืนเงินฝากตามจำนวนที่โจทก์ฝากไว้เท่านั้น โดยไม่จำต้องคืนเป็นเงินจำนวนอันเดียวกับที่ฝากไว้ การที่จำเลยเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ จึงไม่ใช่เป็นการเอาทรัพย์ของโจทก์ไป การกระทำของจำเลยจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นศ.วิศวะ ขโมยเก๋งขับโชว์สาวในมหาวิทยาลัย

นศ.วิศวะ ขโมยเก๋งขับโชว์สาวในมหาวิทยาลัย

นศ.วิศวะ คิดอยากสนุก ขโมยกุญแจรถเก๋งจากเคาเตอร์ร้านเกมส์ เอารถไปขับโชว์สาวที่มหาวิทยาลัย ข้ามวันตำรวจตามตัวเจอ 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 มิ.ย.) สน.คลองตัน จับกุมตัวนายมิว (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) พร้อมของกลางรถยนต์มิตซูบิชิเลนเซอร์ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ท 5955 กรุงเทพมหานคร ที่ลานจอดรถอาคารไพรเวซี่คอนโด ซอยลาดพร้าว 124 แขวงวังทองหลาง เขตลาดพร้าว
สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) นายนพศักย์ พงษ์พันธ์ อายุ 31 ปี แจ้งความว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ถูกคนร้ายขโมยรถดังกล่าวไปขณะกำลังเข้าไปดูแลร้านเกมส์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ ขณะเข้ามาในร้านและหยิบกุญแจรถของผู้เสียหายออกจากร้านไป แล้วขับรถสตาร์ทรถออกไปหน้าตาเฉย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบจนทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่อาคารไพรเวซี่คอนโด จึงนำกำลังเข้าจับกุม
สอบสวนนายมิว สารภาพว่า ตนกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวิศกรรมศาสตร์โยธา มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุตนไปหาเพื่อนที่ร้านดังกล่าว และเห็นว่ามีกุญแจวางอยู่ที่เคาเตอร์ร้าน จึงคิดอยากสนุกอยากได้รถขับไปโชว์สาวๆ ในมหาวิทยาลัย จึงอาศัยจังหวะเจ้าของร้านเผลอหยิบกุญแจออกไป โดยไม่คิดว่าจะถูกจับดำเนินคดี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาลักทรัพย์ news.sanook
มาตรา  334  ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพัน

 สอบถามให้คำแนะนำ  บริการด้านกฎหมาย โทร 087-0788-718 ช้าง

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เพราะรัก! รวบสาวอดีตพนักงานแบงก์กรุงไทย พร้อมแฟนหนุ่ม เชิดเงิน 9 ล้านบาท

เพราะรัก! รวบสาวอดีตพนักงานแบงก์กรุงไทย พร้อมแฟนหนุ่ม เชิดเงิน 9 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงข่าวรวบอดีตพนักงานสาวธนาคารกรุงไทย จังหวัดนครพนม พร้อมแฟนหนุ่ม เชิดเงินธนาคารเกือบ 9 ล้านบาทเมื่อเดือนมกราคม สารภาพทำไปเพื่อช่วยแฟนที่ติดหนี้พนัน
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 แถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.จุฑามาศ สุวรรณบำรุง อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสบริการลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขานครพนม กับ นายศุภเศรษฐ์ ชนะชัย แฟนหนุ่ม อดีตนักวิเคราะห์นโยบายและแผนระดับปฏิบัติการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2 หลังถูกจับกุมขณะนำโทรศัพท์มือถือไปจำนำที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง จ.สมุทรปราการ ในคดียักยอกทรัพย์เงินสดเกือบ 9 ล้านบาท จากตู้เอทีเอ็ม 3 ตู้ หน้าธนาคารก่อนหลบหนีไป 
น.ส.จุฑามาศ สารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือทำ เพราะแฟนหนุ่มติดการพนันอย่างหนัก โดยเฉพาะการพนันประเภทออนไลน์ และ บาคาร่าใน จ.นครพนม ด้วยความรัก เมื่อฝ่ายชายขอให้ช่วยเหลือ จึงลักลอบเปิดตู้เซฟเนื่องจากรู้รหัสและมีกุญแจ โดยระหว่างหลบหนีไปตามจังหวัดต่างๆ แฟนหนุ่มยังคงเล่นการพนันออนไลน์และตามบ่อนในจังหวัดต่างๆ จนกระทั่งเงินหมด จึงตัดสินใจนำโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่มาจำนำ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายแต่มาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ 
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคืนวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย น.ส.จุฑามาศ ได้ขาดงานโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาโอนเงิน 1,700,000 บาท จากบัญชีลูกค้าเข้าบัญชีแฟนหนุ่ม เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่า น.ส.จุฑามาศ เปิดตู้เซฟของตู้เอทีเอ็ม และเอาเงินสดภายในธนาคารไป


สอบถามให้คำแนะนำ  บริการด้านกฎหมาย โทร 087-0788-718

ให้คำแนะนำ บริการด้านกฎหมายแก่ประชาชน

ให้คำแนะนำ บริการด้านกฎหมายแก่ประชาชน

ประชาชน ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริหารของทนายความ จะมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกทนายความอย่างไร? คำถามใดที่ควรจะถามและทำความเข้าใจกับทนายความก่อนอื่นใด? และจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
--------------------------------------------------------------------------------
ถ้าหากเลือกทนายความผิด...แทนที่จะได้คนมาช่วยแก้ไขปัญหา หรือบรรเทาความเดือดร้อนของเราแล้ว อาจจะเป็นการสร้างปัญหาเพิ่มเป็นทวีคูณก็ได้ ถ้าผู้ที่ต้องการทนายความสามารถเตรียมตัวในการพบทนายความสามารถเตรียมตัวใน การพบทนายความได้ดีแล้วก็จะทำให้ทนายความสามารถทำงานให้ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เป็นการประหยัดเวลาของผู้ได้รับความเดือดร้อนและของทนายความได้อย่างดี และยังเป็นการลดความขัดแย้งของลูกความกับทนายความ ซึ่งทำให้คดีมรรยาททนายความลดน้อยลงไปด้วย คำแนะนำดังต่อไปนี้เป็นเพียงหลักเกณฑ์เบื้องต้นที่ควรปฏิบัติในการพบทนายความครั้งแรก

ขอดูใบอนุญาตทนายความ
ผู้ประกอบอาชีพทนายความต้องได้รับใบอนุญาตจากสภาทนายความเท่านั้น ซึ่งก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตว่าความ ต้องได้รับการทดสอบว่าเป็นผู้ที่ต้องมีความรู้ทางด้านกฎหมาย และได้รับการฝึกฝนการใช้กฎหมายมาเป็นอย่างดี รวมทั้งได้รับการอบรมเกี่ยวกับจรรยาบรรณทางวิชาชีพแล้ว ซึ่งสภาทนายความมีอำนาจในการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมาเป็นทนายความ จึงเสมือนหนึ่งเป็นการรับรองว่า ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตว่าความต้องเป็นผู้มีมาตรฐานการประกอบวิชาชีพขั้นต่ำแล้ว
ผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตว่าความ หากมาทำการว่าความในศาล หรือแต่งฟ้องคำให้การ ฟ้องอุทธรณ์ แก้อุทธรณ์ ฟ้องฎีกา แก้ฎีกา คำร้อง หรือคำแถลง อันเกี่ยวแก่การพิจารณาในศาล เป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา33 จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 82 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
เชื่อหรือไม่? ในปัจจุบันนี้ มีสำนักงานทนายความบางแห่งที่ประกอบกิจการมานานนับสิบปี โดยเจ้าของสำนักงานหรือผู้ประกอบการดังกล่าวไม่ได้รับใบอนุญาตว่าความ แต่จะทำการเป็นผู้ให้คำแนะนำทางด้านกฎหมาย เมื่อจะว่าความก็จะใช้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตว่าความดำเนินการในชั้นศาล บุคคลทั่วไปจะเห็นแต่ท่าทางภูมิฐาน พูดจะมีหลักมีเกณฑ์น่าเชื่อถือ โดยปกปิดเรื่องที่ไม่ได้รับใบอนุญาตว่าความหรือบางครั้งแอบอ้างว่าเป็น
ทนายความด้วย เมื่อให้คำแนะนำกฎหมายที่ผิดพลาดก็ไม่รับผิดชอบ หรือหากมีการละทิ้งงานหรือฉ้อโกง หรือหลอกลวงเงินของลูกความแล้ว สภาทนายความก็ไม่มีอำนาจเข้าไปลงโทษแต่อย่างใด ซึ่งเป็นช่องว่างของกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการมรรยาททนายความได้รับหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติการณ์เหล่านี้หลายเรื่อง แต่ไม่อาจลงโทษบุคคลดังกล่าวได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ ในขณะนี้ สภาทนายความกำลังพยายามแก้ไขกฎหมายให้ครอบคลุมถึงการจดทะเบียนสำนักงานทนายความด้วย ซึ่งหากดำเนินการสำเร็จ ก็จะทำให้สภาทนายความมีอำนาจเข้าไปควบคุมการดำเนินการของสำนักงานทนายความที่ประพฤติมิชอบได้ อันจะเป็นปกป้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนอีกทางหนึ่งด้วย

ทนายความบางคนอาจถูกสภาทนายความลงโทษเพราะประพฤติผิดมรรยาททนายความ โดยมีโทษห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกิน 3 ปีหรืออาจถูกลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ถ้าทนายความดังกล่าวยังขืนไปว่าความในศาลหรือแต่งฟ้องคำให้การฟ้องอุทธรณ์ แก้อุทธรณ์ ฟ้องฎีกา แก้ฎีกา คำร้อง หรือคำแถลง อันเกี่ยวแก่การพิจารณาคดีในศาล กระบวนพิจารณาที่ดำเนินไปโดยทนายความดังกล่าวจะเสียไปทันที ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อลูกความด้วย ทนายความดังกล่าวอาจถูกศาลลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลก็ได้ ทนายความที่ถูกห้ามทำการเป็นทนายความแล้วยังขืนไปทำการว่าความ จะมีโทษตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 82 ประกอบกับมาตรา 33 ดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับ
ไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากการลงโทษเป็นเพียงห้ามทำการเป็นทนายความ ยังอาจถือได้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการขัดคำสั่งของคณะกรรมการสภาทนายความ หรือสภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ อันเป็นการประพฤติผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 หมวด 6 ข้อ 21 อีกส่วนหนึ่งด้วย ส่วนทนายความที่ถูกลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความแล้ว ยังขืนทำการว่าความถือว่า ไม่ได้รับใบอนุญาตว่าความ ก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 82 ดังกล่าว มาแล้วข้างต้น แต่คนที่จะได้รับความเสียหายมากที่สุดก็ยังคงเป็นผู้เลือกหรือแต่งตั้ง

ดังนั้น หากสอบถามแล้ว ได้ความยังไม่ชัดเจนหรือมีข้อสงสัย ก็สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ นายทะเบียนทนายความ หรือที่สำนักงานคณะกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความ โทรศัพท์ 0-2629-1430 ต่อ 106, 107
ถามทนายความว่า มีความสัมพันธ์ส่วนตัวอะไรกับบุคคลที่จะเป็นคู่ความกับตนหรือไม่?
หากมีการแต่งตั้งให้เป็นทนายความแล้ว ทนายความบางคนอาจจะมีผลประโยชน์ขัดกันในการทำหน้าที่เป็นทนายความให้แก่ลูกความ
การที่จะแต่งตั้งทนายความ หมายถึง การที่จะแต่งตั้งให้ทนายความทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของผู้แต่งตั้ง หากทนายความมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคู่ความฝ่ายตรงข้าม เช่น เป็นญาติหรือเป็นเพื่อนสนิทกับฝ่ายตรงข้ามหรือมีผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากคู่ความฝ่ายตรงข้าม เช่น เป็นที่ปรึกษากฎหมายของฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้วหรือเป็นทนายความให้แก่ฝ่ายตรงข้ามหรือทนายความมีส่วนได้เสียจากกรณีที่พิพาทกัน เช่น ทนายความเป็นผู้จะซื้อที่ดินที่จะพิพาทกัน หรือเป็นผู้มีสิทธิจะได้รับมรดกเป็นที่ดินที่จะพิพาทกัน เป็นต้น ก็อาจจะทำให้ทนายความคนนั้นไม่ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของผู้แต่งตั้งทนายความได้ ปัญหานี้อาจพบได้ในต่างจังหวัด ซึ่งมีสังคมที่แคบกว่าในกรุงเทพมหานคร ทุกคนในจังหวัดอาจรู้จักกันและมีผล
ประโยชน์เกี่ยวเนื่องกันอยู่ ทนายความที่ได้รับเป็นทนายความหรือได้ปรึกษาคดี ได้ทราบข้อเท็จจริงแห่งคดีแล้ว ไปทำหน้าที่ทนายความให้กับอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะ มีความผิดเปิดเผยความลับของลูกความ หรือรับปรึกษาคดีแล้วภายหลัง มาทำหน้าที่เป็นทนายความให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง หรือเป็นการประกอบอาชีพที่เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์และวิชาชีพทนายความ อันเป็นประพฤติผิดมรรยาททนายความตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 หมวด 3 ข้อ 11, 13 หรือ 18 ก็ได้ ดังนั้น ทนายความไม่ควรรับปรึกษาคดีที่มีปัญหาดังกล่าว

สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายในคดี และค่าทนายความ
ทนายความมีวิธีการเรียกค่าใช่จ่ายและค่าทนายความไม่เหมือนกัน ซึ่งโดยทั่วไปทนายความจะขอให้ลูกความเล่าเรื่องย่อแล้ว จะให้ความเห็นทางกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายก่อน จึงจะกำหนดค่าใช้จ่ายและค่าทนายความ ซึ่งควรสอบถามรายละเอียดหรือข้อสงสัยเพื่อให้ทนายความอธิบายให้ชัดแจ้งด้วย
ทนายความบางคนจะเรียกค่าใช้จ่ายและค่าทนายความเป็นการเหมาจ่ายตลอดทั้งสามศาล หรือเหมาจ่ายเป็นรายศาล บางรายจะเรียกค่าใช่จ่ายตามที่จ่ายจริงแยกต่างหากจากค่าทนายความ แยกกันแต่ละศาล
ค่าใช้จ่ายในศาล หากเป็นคดีแพ่ง ต้องวางเงินค่าขึ้นศาล เป็นเงินร้อยละ 2.5 ของทุนทรัพย์ที่พิพาทกัน และกำหนดค่าขึ้นศาลสูงสุดที่ศาลจะเรียกไม่เกิน 200,000 บาท ถ้าเป็นคดีที่ไม่มีทุนทรัพย์ ต้องวางเงินค่าฤชาธรรมเนียม 200 บาท ค่าใบแต่งทนายความ 20 บาท ค่าคำร้อง 20 บาท คำขอ 10 บาท ค่าอ้างพยานเอกสารใบละ 5 บาท แต่ไม่เกิน 200 บาท ประมาณค่าคำร้อง คำขอ และค่าใช้จ่ายอื่นคดีละไม่เกิน 2,000 บาท
หากคดีมีการอุทธรณ์หรือฎีกา ก็ต้องเสียค่าขึ้นศาลในอัตราเดียวกันข้างต้น และต้องนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ ที่ศาลสั่งให้ใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่ง ไปวางศาลด้วย ในกรณีที่ตัวความเป็นผู้ยากจน ก็อาจขอให้ทนายความยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาได้ ซึ่งศาลจะมีคำสั่งให้ไต่สวนและมีคำสั่งต่อไป หากเป็นคดีอาญาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาทั้งหมด
เคยมีคดีมรรยาททนายความหลายคดีที่ทนายความเรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากลูกความสูงกว่าที่กำหนดในกฎหมาย เช่น เรียกในอัตราร้อยละ 3 หรือร้อยละ 5 บางรายไม่แจ้งให้ลูกความทราบว่ากฎหมายกำหนดเพดานสูงสุดของค่าฤชาธรรมเนียมไว้ ทำให้ได้รับเงินสูงกว่าที่จะต้องนำไปวางศาล โดยนำมาเป็นประโยชน์ส่วนตน ซึ่งเป็นการใช้อุบายด้วยประการใด ๆ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เพื่อจะให้ตนได้รับประโยชน์นอกเหนือจากที่ ลูกความได้ตกลง สัญญาให้อันเป็นการประพฤติผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 หมวด 3 ข้อ 14
ค่าทนายความ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการดำเนินคดีและความมีชื่อเสียงของทนายความ หรือของสำนักงานทนายความ มีวิธีการคิดค่าทนายหลายแบบ เช่น คิดเป็นอัตราร้อยละ จากทุนทรัพย์ที่พิพาทกัน เช่น ร้อยละ 3 ร้อยละ 5 ร้อยละ 10 ร้อยละ 20 ของทุนทรัพย์ เป็นต้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินที่แน่นอน หรือคิดเป็นรายชั่วโมงของการทำงานของทนายความ หรืออาจคิดเป็นรายครั้งที่ต้องไปทำงานว่าความที่ศาลหรือไปติดตามสืบค้นหา ข้อเท็จจริงแห่งคดี เป็นต้น
ค่าทนายความไม่มีการกำหนดแน่นอนว่าควรจะเรียกเท่าใด แต่ในทางจริยธรรมวิชาชีพทนายความแล้ว ค่าทนายความควรจะเรียกในจำนวนที่เหมาะสม ไม่ใช่เป็นการขูดรีดจากตัวความในขณะที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เคยมีคดีที่ทนายความเรียกค่าจ้างเฉพาะในชั้นบังคับคดีเป็นเงิน 60,000 บาท ทั้งที่คดีมีทุนทรัพย์เพียง 80,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการประกอบอาชีพที่เสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 ข้อ 18
มอบคดีให้ทนายความ
เมื่อได้สอบถามปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวจนเป็นที่พอใจว่า จะว่าจ้างทนายความดังกล่าวแล้ว ก็ควรส่งมอบคดีให้ทนายความดำเนินการ โดยควรบันทึกข้อเท็จจริงแห่งคดีโดยละเอียด ระบุรายละเอียดของพยานเอกสารพยานบุคคล ที่อยู่ของพยานบุคคลดังกล่าว และวิธีการได้มาซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อให้ทนายความสามารถทำงานต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยควรให้ทนายความลงชื่อรับบันทึกและพยานเอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือด้วย เพื่อไม่ต้องมาโต้แย้งกันในภายหลังว่า ทนายความได้รับเอกสารดังกล่าวไปแล้วหรือยัง
ทำสัญญาจ้างว่าความ
ควรขอให้ทนายความทำหนังสือสัญญาจ้างว่าความให้ละเอียดถูกต้องตามที่ได้เจรจากันมา หากมีข้อความในหนังสือสัญญาข้อใดไม่ชัดเจนหรือไม่เข้าใจ ก็ขอให้ทนายความชี้แจง หรือขยายความในหนังสือสัญญาให้ชัดเจน เพื่อมิให้เป็นปัญหาในภายหลัง และผู้แต่งตั้งทนายความควรจะต้องปฏิบัติตามสัญญาจ้างว่าความให้เคร่งครัด
การเก็บเอกสาร
ควรเก็บสำเนาเอกสารที่ส่งมอบให้แก่ทนายความตลอดจนเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี หนังสือโต้ตอบระหว่างท่านกับทนายความให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อประโยชน์ในการค้นหาและติดตามคดี หรือใช้อ้างอิงในภายหน้า
การติดตามผลคดีอย่างใกล้ชิด
ควรติดตามผลคดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการแล้วก็ตาม เพราะผลดีหรือผลเสียแห่งคดี ย่อมต้องตกแก่ตัวความเพียงฝ่ายเดียว หากละเลยไม่สนใจผลคดีแล้ว หากมีข้อผิดพลาดแล้วจะทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้
แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมทันที
หากคู่ความฝ่ายตรงข้ามติดต่อมาหรือมีข้อมูลอื่นเพิ่มเติม ต้องรีบแจ้งให้ทนายความทราบทันที เพราะข้อมูลบางอย่างที่ท่านเห็นว่าไม่สำคัญ อาจจะมีความหมายสำคัญต่อทนายความในการดำเนินคดีก็ได้ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง และรวดเร็วจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีอย่างยิ่ง
วันนัดของศาล
ต้องจดจำวันนัดของศาลให้แม่นยำ มิฉะนั้นหากท่านไม่ไปศาลในวันนัด ไม่ว่าจะเป็นเพราะหลงลืมหรือไม่ก็ตาม คดีท่านอาจจะได้รับความเสียหาย โดยไม่มีทางแก้ไขได้
มีปัญหาข้อข้องใจเกี่ยวกับคดีให้สอบถามทนายความทันที
เมื่อมีปัญหาสงสัยเกี่ยวกับคดีที่มอบหมายให้ทนายความ ให้รีบสอบถามหรือขอคำอธิบายจากทนายความทันที อย่ามัวแต่เกรงใจ ต้องสอบถามหรือขอคำอธิบายจนเข้าใจดี มิฉะนั้น ปัญหาข้อข้องใจดังกล่าวอาจทำให้ผลของคดีต้องได้รับความเสียหาย หรือกลายเป็นปัญหาใหญ่ติดตามมา หรืออาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับทนายความก็ได้

สอบถามข้อมูลได้ TEL:087-0788-718  ช้าง